No Comment

ขอเชิญร่วมบุญสร้าง “องค์พระสีวลี” เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภ ยศ ชื่อเสียงที่ขจรไปไกล

การบูชา “พระสีวลี” เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภ ยศ ชื่อเสียงที่ขจรไปไกล พร้อมรับความร่ำรวย มั่งคั่ง ที่จะเข้ามาอย่างรวดเร็ว เราจึงควรบูชา“พระสีวลี” เป็นประจำ

ท่านใดสนใจร่วมบุญสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 089-2685805 พระอธิการฐิติ ฐิตสํวโร (หลวงพ่อวัตน์) เจ้าอาวาสวัดหนองเป็ดก่า
องค์พระสีวลี อยู่ในขณะสั่งจอง
องค์พระสีวลี อยู่ในขณะสั่งจอง

ฐานองค์พระ กำลังดำเนินการก่อสร้าง
การบูชา “พระสีวลี” เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภ ยศ ชื่อเสียงที่ขจรไปไกล พร้อมรับความร่ำรวย มั่งคั่ง ที่จะเข้ามาอย่างรวดเร็ว เราจึงควรบูชา“พระสีวลี” เป็นประจำ
สาเหตุที่ท่านได้รับการยอมรับว่า เป็นพระอรหันต์แห่งโชคลาภนั้น เพราะในสมัยที่ท่านยังอยู่ในครรภ์มารดา คือ พระนางสุปฺปวาสา ผู้เป็นราชบุตรีของเจ้าเมืองโกลิยะ ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์มารดานั้นนานถึง 7 ปี กับอีก 7 วัน เพื่อชดใช้กรรมเก่าจากการที่ในชาติก่อนนั้น

(โดยปกตินั้น คนธรรมดาอยู่ในท้องแม่ไม่เกิน 9 เดือน 10 เดือนก็ต้องคลอดออกมาแล้ว)

ซึ่งครั้งนั้น พระองค์ทรงเป็นพระราชาในเมืองแห่งหนึ่ง ทรงมีอุบายร่วมกับพระมารดา พยายามจะแย่งชิงเมืองอีกเมืองมาเป็นของตน แต่ไม่ใช้กำลังเข้าห้ำหั่น อาศัยกลยุทธ์เข้าล้อมเมืองนั้น

ทำให้เมืองนั้นขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ชาวเมืองล้วนประสบโรคภัยไข้เจ็บ เผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ดำรงชีวิตอยู่ด้วยคงวามทุกขเวทนา ด้วยความทุกข์เวทนามากว่า 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ผลจากกรรมนั้น จึงส่งผลมาดังกล่าวแก่ท่าน ให้ท่านนั้นต้องทนอุดอู้อยู่ในครรภ์มารดานั้น

แต่ด้วยด้วยอำนาจบุรพกรรมตามมา ได้ทำให้เกิดโชคลาภแก่พระมารดาผู้ทรงครรภ์เป็นอันมาก โดยกล่าวว่าในเวลาใกล้ประสูติ แม้พระมารดาของท่านจะได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า แต่ยังมีสติที่ดี จึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดา

ในการครั้งนี้ พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสประทานพรแก่พระนางว่า

“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข

ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ผู้เป็นใหญ่ทั้ง 3 โลก  ทำให้ความทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานหายไป พระนาง ก็ได้ประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ และกุมารน้อยจึงได้รับพระนามว่า “สีวลีกุมาร” นับแต่นั้นเป็นต้นมา

และเมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทานติดต่อกันเป็น เวลา 7 วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ 7 พรรษา ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่างๆ

ซึ่งท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดความรู้สึกพอใจในพระราชกุมารน้อย และครั้นถึงวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ท่านจึงได้ชักชวน สีวลีกุมาร ออกบวช

ซึ่งในการปฏิบัติพิธีกรรมนั้น พระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง 5 ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตโจ (หนัง) ให้ พิจารณาของทั้ง 5 เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งาม เป็นของสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหล

เมื่อสีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกนเพื่อ โกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ 2ท่านได้บรรลุเป็น พระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ 3 ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ทั้งที่อายุยังน้อย!

ในครั้งใดก็ตาม หากท่านร่วมคณะเผยแพร่ธรรมไปกับคณะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะพบว่ามีผู้ทำบุญถวายปัจจัยอย่างไม่ขาด ทั้งภัตตาหาร และที่พักอาศัย แม้จะออกเผยแพร่ธรรมในเป็นดินแดนห่างไกล ยากไร้ แห้งแล้ง กันดารเพียงใดก็ตาม

ด้วยบุญบารมีของพระสีวลีนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวท่านเอง แต่ยังได้เผื่อแผ่ไปยังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งสงฆ์สาวกท่านอื่นๆ ให้ได้รับปัจจัยอย่างทั่วถึง

ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านใน ตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง “ผู้มีลาภมาก

จึงเป็นที่มาของความศรัทธาที่ว่า

ท่านทรงเป็นพระภิกษุสงฆ์แห่งโชคลาภ และความสมบูรณ์มั่งคั่งที่ไม่เคยขาด   และความศรัทธานี้ก็ยังคงปรากฏอย่างเด่นชัด สืบทอดมาจนปัจจุบันนี้ หากผู้ใดบูชาพระสิวลีอย่างถูกต้อง ก็จะพบความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว และมีกินมีใช้ไม่ขาด

ซึ่งความศรัทธานี้ ได้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน ทำให้มีผู้ที่ทำธุรกิจการค้า หรือต้องการประสบความสำเร็จโดยเร็วในด้านเมตตามหานิยม หรือโชคลาภ สรรเสริญจึงบูชาพระสีวลีไม่ได้ขาด โดยมีวิธีในการบูชาที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้

เคล็ดลับวิธีการบูชาพระสิวลี

ต้องเริ่มจากการหมั่นบริจาคทานในที่ๆ ยากลำบาก คือ หัวใจของการบูชาพระสิวลีให้ได้ผลดี   เพราะในอดีตทุก ๆ ชาติที่ผ่านมา  พระสิวลีท่านจะทำบุญด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม  ทำบุญด้วยศรัทธาเต็มร้อย  แม้ว่าของที่ทำบุญจะราคาไม่แพง  แต่ก็เป็นการถวายที่ทรงคุณค่า  เพราะเป็นการให้ในสิ่งที่ผู้รับต้องการ  ดุจการได้น้ำในทะเลทราย  ดุจการได้อาหารในยามหิว

ดังนั้นผู้ที่ต้องการที่จะให้พระสิวลีท่านช่วยควรจะบริจาคทาน ให้สิ่งของในผู้ยากไร้มากๆ ท่านจะได้อานิสงส์บุญมาก และต้องอุทิศบุญนั้นส่งไปให้พระสิวลีทุกครั้ง เป็นการเปิดบุญและเชื่อมบุญกับท่าน เพื่อให้ท่านรู้จักเรา และรับรู้ความต้องการของเราได้

การบูชาพระสีวลีนั้น ให้บูชาด้วย

1.น้ำผึ้ง ผลไม้สด ดอกไม้ขาว หรือ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัวทุกชนิด อย่างละ 3 ดอก 5 ดอก หรือ 7 ดอก ก็ได้

2.น้ำสะอาด 1 แก้ว โดยลอยดอกมะลิไว้บนน้ำ

3.แล้วจุดธูป 3 ดอก เทียนบูชา 1 เล่ม

เคล็ดโบราณนั้นกล่าวไว้ว่า การถวายผลไม้สด และน้ำผึ้งควรถวายในวันพฤหัสบดี ส่วนวันเสาร์ควรถวายอาหารจากทะเล หรืออาหารที่ปรุงจากต้นบัว แล้วอธิษฐานจิตขอให้โชคสำเร็จ สมหวัง และเมื่อท่านได้โชคได้ลาภสมดังหวังแล้ว จะต้องทำบุญเลี้ยง หรือถวายสังฆทานเพื่อเป็นการต่อโชคลาภให้มาไม่ขาดสาย

การสวดพระคาถาขอลาภพระสีวลี ต้องอยู่ในสมาธิที่สงบแน่วแน่ จิตไม่ส่ายไปมา ไม่คิดถึงในเรื่องอื่น ตามองที่คาถาบูชา หรือหลับตาภาวนานึกถึงตัวอักขระตามไป

ถ้าสวดได้ทุกวัน จนครบ 7 วันได้ยิ่งดี ในกรณีทีท่านต้องการจะขอลาภเป็นพิเศษ อาทิ จะต้องติดต่อธุรกิจสำคัญใด ๆ ในวันนั้น ให้สวดคาถาบูชาพระสีวลีก่อน เมื่อเสร็จแล้วต่อด้วย คาถาขอลาภพระสีวลีประจำวัน ตามกำลังวันของวันนั้น ๆ จะเป็นพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ตามจิตปรารถนา ค้าขายดี มีราศี ดังต่อไปนี้

คาถาบูชาพระสิวลี

” สีวะลี  มะหาเถโร  เทวะตานะระปูชิโต  โสระโห  ปัจจะยาทิมหิ  อะหัง  วันทามิ  สัพพะทาฯ
สิวสีจะ มะหาเถโร  ยักขาเทวาภิปูชิโต  โสระโห  ปัจจะยาทิมหิ  อะหัง  วันทามิ สัพพะทาฯ
สิวะลีเถระคุณังเอตัง  โสตถุลาภัง  ภะวันตุฯ “

คาถาบทนี้ท่านให้ภาวนาก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนแล้วก่อนไปทำงานนอกบ้าน
เชื่อว่า จะทำให้เกิดลาภร่ำรวยในการค้าขาย สะดวกในเรื่องธุรกิจติดต่อศัตรูหมู่มารที่มุ่งร้าย
จะกลับกลายเป็นมิตร มีแต่ความสุขสันติเป็นสิริมงคลชีวิตตลอดไป


(สำหรับคาถาบูชาพระสิวลีนั้น มีครูบาอาจารย์ได้แต่งขึ้นมาบูชาท่านหลายสำนัก กล่าวกันว่าทุกสำนักนั้นถูกต้องหมดทั้งสิ้น เพราะเต็มไปด้วยอักขระที่ทรงพลานุภาพทุกตัวอักษร)
No Comment

พิธีพุทธาภิเษกพระ คืออะไร?


“พิธีพุทธาภิเษกพระ” คืออะไร เพื่ออะไร เป็นพุทธพิธีหรือไม่ เริ่มมีสมัยใด ต่างกับปลุกเสกอย่างไร?

ถาม : สมัยนี้มีการทำพุทธาภิเษกกันมาก การทำพิธีนี้มีมาแต่สมัยใด ท่านผู้ใดทำก่อน ชื่ออะไร วันเดือนปีเท่าใด กระผมสงสัยว่าเป็นพราหมณ์ หรือพทธ พระท่านสวด ๔ รูป เรียกว่าสวดอะไร พระท่านบริกรรมอะไร การกระทำพุทธาภิเษก กับปลุกเสก ต่างกันอย่างไร เพื่ออะไร ?

ตอบ : พุทธาภิเษก ในแง่ของเจตนารมณ์ เราจะพบว่า คือ การประชุมกันเพื่อตกลงยอมรับวัตถุที่นำเข้าสู่พิธี ให้เป็นวัตถุที่เคารพสักการะ เป็นเครื่องหมายแห่ง ขวัญ กำลังใจ และเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความเลือมใส ของคนที่ยอมรับถือสมมุติสัจจะเหล่านั้น ทำนองเดียวกับเงื่อนไขต่างๆ เช่น เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ประธานาธิบดี เป็นต้น ตำแหน่งของท่านเหล่านั้นจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมือ ได้ผ่านกรรมวิธี ขั้นตอนตามหลักการที่กำหนดไว้ ท่านจะเป็นอะไรมาก่อนไม่สำคัญ แต่เมื่อผ่านขั้นตอนต่างๆที่กำหนดขึ้นกันโดยถูกต้องแล้ว ทุกคนจะต้องยอมรับนับถือ ฐานะที่สมมุติแต่งตั้งกันนั้น

     พุทธาภิเษกก็มีลักษณะอย่างนั้น เดิมที่เดียววัตถุนั้นเป็นเพียงทองเหลือง ทองแดง นาค เงิน ทราย เหล็กเป็นต้น นายช่างที่ดีจะทำการหล่อ แกะ สลัก ปั้น จึงถือว่าตอนนั้นไม่เป็นพระพุทธรูป เขาจึงสามารถทำหน้านี้ในการตบแต่งได้ เมื่อผ่านพิธีแล้ว คืออภิเษกวัตถุนั้นเป็นพระพุทธปฏิมา กำหนดหมายว่ารูปแทนพระพุทธเจ้าถูกต้องตามกรรมวิธีที่กำหนด ศาสนิกชนที่ดีต้องยอมรับสมมุติสัจจะเหล่านี้


ประวัติของการทำพิธีพุทธาภิเษก
การทำพิธีพุทธาภิเษกเริ่มต้นเมื่อใด ไม่มีใครทราบ แต่คงเริ่มทำกันมานานแล้ว พิธีพุทธาภิเษกจะเป็นประเพณี พิธีกรรมของใครมาก่อนก็ตาม แต่ปัจจุบันนั้น เป็นของพุทธไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีพื้นฐานอะไรเป็นพราหมณ์บ้างก็ไม่ควรไปถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร แต่การใดก็ตามเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่คนที่รู้จักใช้อยู่ จะเป็นของใครมาก่อนไม่เห็นสำคัญอะไร


พิธีพุทธาภิเษก
การที่พระ 4 รูปมาสวดนั้นท่านเรียกว่า พุทธาภิเษก อันเป็นการแสดงถึงความรู้สึกศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ของผู้ร่วมพิธี พร้อมกับพรรณาพุทธประวัติ อานุภาพของพระพุทธเจ้า จากนั้นจะเป็นการสวดภาณวาร ก็คือ สูตรที่มีประวัติความเป็นมา ในทางขลัง ศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพในการช่วยเหลือคนให้หลุดพ้น จากทุกข์ ภัย โรค

    ท่านที่นั่งบริกรรมนั้น ท่านจะว่าอะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละท่าน 
    สรุปแล้วคือ ท่านนั่งทำความสงบด้วยการบริกรรม สมาธิเพื่อแผ่พลังจิต คาถา มนตร์ ที่ท่านสาธยาย ให้เป็นอานุภาพแก่วัตถุมงคลที่นำมาทำพิธี
    ท่านที่บริกรรมอาจเรียกว่า ปลุกเสก ก็ได้ แต่ปลุกเสก ส่วนมากเน้นไปที่ปลุกเสกผลงาน ที่ผ่านการทำพิธีพุทธาภิเษกมาแล้ว สรุปว่า ปลุกเสกบางอย่างมีอยู่ในพุทธาภิเษก แต่พุทธาภิเษกบางอย่างไม่ใช่การปลุกเสก


ที่มา : หนังสือข้อข้องใจผู้ใผ่ธรรม โดยพระโสภณคณาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโน) วัดบวรนิเวศวิหาร โพสต์โดย คุณน้อมเศียรเกล้า
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tilltomorrow&date=24-05-2012&group=2&gblog=52
ขอบคุณภาพจาก
http://www.posttoday.com/
http://www.amuletat7.com/
http://www.oknation.net/

No Comment

ขอเชิญร่วมเข้าพิธีมงคล แก้ปีชง ต่อชะตา เสริมบารมี สวดภาณยักษ์ และ พิธีพุทธาภิเษก

ขอเชิญร่วมเข้าพิธีมงคล แก้ปีชง ต่อชะตา เสริมบารมี สวดภาณยักษ์ และ พิธีพุทธาภิเษก เหรียญ หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเครือบ รุ่น สร้างอุโบสถ


เหรียญ หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเครือบ รุ่น สร้างอุโบสถ
ชุดกรรมการ ราคาชุดละ 399฿
สั่งจองได้ที่ 089-2685805 เจ้าอาวาส วัดหนองเป็ดก่า
มีจำนวนจำกัด!

กำหนดวันงานที่ 15 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ.วัดหนองเป็ดก่า หมู่ 15 หนองเป็ดก่า ตําบลหนองกระทุ่ม อําเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี

มีมหรสพ ลิเกคณะวัชระ หมื่นสุวรรณ (ลพบุรี) ชมฟรีตลอดงาน!!

ภาพประกอบ พิธีสวดภาณยักษ์

รายนามอาราธนา พระเกจิอธิฐานจิต

1.พระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พระราชอุทัยกวี
2.พระอุทัยธรรมานุวัตร รองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
เจ้าอาวาสวัดหนองขุนชาติ ต.หนองสรวง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
พระอุทัยธรรมานุวัตร
3.พระมหาสุนทร สุนฺทรธมฺโม เจ้าคณะอำเภอทัพทัน
เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม ตำบลหนองจอก อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม


4.พระครูอุทิศศีลคุณ เจ้าคณะตำบลพลวงสองนาง
เจ้าอาวาส วัดเขาหินเทิน
พระครูอุทิศศีลคุณ เจ้าคณะตำบลพลวงสองนาง

5.พระครูอุทัยธรรมสาร (หลวงปู่อั้น วัดโรงโค )
เจ้าอาวาส วัดธรรมโฆษก
พระครูอุทัยธรรมสาร (หลวงพ่ออั้น)
6.พระครูอุทิศธรรมรส (หลวงพ่อโฉม) ฐิติญาโณ
เจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี
พระครูอุทิศธรรมรส (หลวงพ่อโฉม)

7.พระครูอุปกิตสารคุณ (หลวงพ่อเสน่ห์) กตปุญโญ
เจ้าอาวาสวัดพันสี ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี
พระครูอุปกิตสารคุณ (หลวงพ่อเสน่ห์) พระเกจิลุ่มนำสะแกกรัง

8.พระครูอุทัยบวรกิจ (หลวงพ่อตี๋) ปวโร
เจ้าอาวาสวัดดอนขวาง ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
พระครูอุทัยบวรกิจ (หลวงพ่อตี๋)
9.พระครูสุจิตตสังวรคุณ (หลวงพ่อกำจัด)
เจ้าอาวาสวัดป่าสัก ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
พระครูสุจิตตสังวรคุณ (หลวงพ่อกำจัด)
10.หลวงพ่อสมคิด (นะดี)
เจ้าอาวาสวัดเนินสาธารณ์ จ อุทัยธานี
หลวงพ่อสมคิด (นะดี)
11.พระอาจารย์คัมภีร์ (แห้ง) จิตตสาโร
เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลย์ ต.หนอง ยายดา อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี
พระอาจารย์คัมภีร์ (แห้ง) จิตตสาโร
12.พระอธิการเร่ง (หลวงปู่เร่ง) ฐานธมฺโม
เจ้าอาวาสวัดดงแขวน ต.สว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี
พระอธิการเร่ง (หลวงปู่เร่ง) ฐานธมฺโม
เจ้าพิธี 13.พระครูประดิษฐ์ชัยการ (หลวงพ่อเชาว์)
เจ้าอาวาสวัดบ้านเชี่ยน
พระครูประดิษฐ์ชัยการ (หลวงพ่อเชาว์)

ณ วัดหนองเป็ดก่า ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี
โดย พระอธิการฐิติ ฐิตสํวโร (หลวงพ่อวัตน์) เจ้าอาวาสวัดหนองเป็ดก่า
พระอธิการฐิติ ฐิตสํวโร (หลวงพ่อวัตน์) เจ้าอาวาสวัดหนองเป็ดก่า

No Comment

ประวัติความเป็นมา วัดหนองเป็ดก่า

วัดหนองเป็ดก่า ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเป็ดก่า เลขที่ ๙๙ หมู่ที่ ๑๕ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอทัพทันจังหวัดอุทัยธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย โฉนดที่ดินเลขที่ สปก. มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๗ ไร่ อาณาเขตทิศเหนือ ติดต่อกับถนนสายคอดยาง-หนองเป็ดก่า ทิศใต้ ติดต่อกับที่ดินของเอกชน ทิศตะวันออก ติดต่อกับที่ดินของเอกชน ทิศตะวันตก ติดต่อกับถนนหนองเป็ดก่า-เขาดิน















ประวัติความเป็นมาโดยสรุป วัดหนองเป็ดก่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยมีประวัติว่ามีนายสาคร แก้วมั่น ได้เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการสร้างวัดขึ้นมา และได้มีนามตามชื่อบ้าน เนื่องจากที่หมู่บ้านแถวนี้เป็นป่า คงมีหนองน้ำและมีนกเป็ดก่ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเอานิมิตหมายมาตั้งชื่อวัดและบ้านเป็นลำดับมา และบ้านอยู่ห่างไกลจากวัดอื่นมาก ไม่สะดวกในการที่จะเดินทางไปบำเพ็ญกุศล จึงดำเนินการตั้งวัดขึ้นมา เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ชื่อ พระอธิการฐิติ ฐตสํวโร อายุ ๕๖ ปี พรรษา ๑๒ วุฒิม.๓ นักธรรมชึ้นโท


ขอบคุณข้อมูลโดย ศูนย์ข้อมูลกลางวัฒนธรรม m-culture.in.th
No Comment

กิจกรรมงานทอดกฐิน ประจำปี 2558

งานทอดกฐิน ประจำปี 2558 ณ. วัดหนองเป็ดก่า

ภาพประกอบ ช้างร่วมพิธีทอดกฐิน ภาพที่ 1
ภาพประกอบ ช้างร่วมพิธีทอดกฐิน ภาพที่ 2
ภาพประกอบ ช้างร่วมพิธีทอดกฐิน ภาพที่ 3
พระอธิการธิติ ฐิตสํวโร เจ้าอาวาส วัดหนองเป็ดก่า

วีดีโองานทอกกฐิน วัดหนองเป็ดก่า



No Comment

อานิสงส์ผลบุญจากการทำบุญ 40 แบบ

อานิสงส์ผลบุญจากการทำบุญ

1.การทำบุญด้วยการถวายจีวร ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายจีวรแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นผู้ที่พร้อมด้วยเสื้อผ้า อาภรณ์ และเครื่องประดับ มีแต่ผู้คนให้ความเคารพยกย่อง มีเกียรติ เป็นที่ยอมรับของคนทุกหมู่เหล่า เมื่อใดก็ตามจะต้องพบกับความมีอุปสรรค อุปสรรคนั้นจะผ่านพ้นไปด้วยดี ภยันตรายอื่นๆ อย่างสัตว์มีพิษและของมีคมต่างๆ ก็ทำร้ายไม่ได้ 
อานิสงส์ที่จะเกิดขึ้นในชาติหน้า จะเกิดมาเป็นผู้ที่มีความเพียบพร้อมด้วยหน้าตาที่งดงาม และสติปัญญาที่น่านับถืออย่างยิ่ง

2.การทำบุญด้วยการถวายเตียงนอน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายเตียงนอนแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในเรื่องของความเป็นอยู่ที่สุขสบาย จะได้นอนหลับในที่ที่อุ่นในยามหนาว เย็นสบายในช่วงฤดูร้อน ในเรื่องของสุขภาพก็มักจะไม่เจ็บป่วยง่าย ร่างกายแข็งแรงหากคิดจะเอาดีทางด้านการกีฬา ก็จะโด่งดังในระดับโลก เพราะจะเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในด้านนี้มาก เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยชรา ก็จะมีลูกหลานมาดูแล ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว นับว่าสบายตั้งแต่เกิดจนตาย

3.การทำบุญด้วยการถวายหมอน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายหมอนจะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของการเป็นผู้ที่มีความอดทนอดกลั้นเหนือผู้อื่นหากอยู่ในการแข่งขันจะเป็นบุคคลที่สร้างความกดดันให้แก่คู่ต่อสู้อย่างมาก ทำการงานใดก็จะสำเร็จ เพราะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ง่าย อีกทั้งหากจะทำการงานใดก็จะมีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่เสมอ

4.การทำบุญด้วยยาดม ยานัตถุ์ ผู้ที่ทำบุญด้วยยาดม หรือยานัตถุ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญส่งให้เป็นผู้ปลอดภัยจากโรคเกี่ยวกับจมูกทั้งปวง จะได้รับรส และกลิ่นที่งดงามอย่างกลิ่นของพระธรรม 
เกียรติยศชื่อเสียงต่างๆ จะขจรขจายไปทั่ว จนผู้คนต่างพากันชื่นชมในคุณงามความดีที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ บริวารต่างพากันเคารพ และคอยปกป้องไม่ให้ได้รับอันตราย จึงเป็นผู้ที่ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีจากผู้อื่น

5.การทำบุญด้วยร่ม ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายร่ม จะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข แม้ในยามที่ตกทุกข์ชะตาดับ ก็จะเกิดปาฏิหาริย์กลายเป็นดีได้ในทุกครั้ง 
นอกจากนี้ยังเป็นผู้อุดมด้วยบุญบารมี แผ่ขยายไปทั่วจนเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ผู้อื่นได้ด้วย จึงมีแต่คนเคารพนับถือ และยอมรับในความกรุณาอย่างดียิ่ง 
ในบั้นปลายชีวิตก็จะพบแต่ความสุขที่แท้จริง ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวแน่นอน

6.การทำบุญด้วยไม้กลอนประตู ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายไม้กลอนประตู จะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญในทุกๆ เรื่อง จึงได้รับโอกาสดีๆ อยู่เสมอ 
จะได้รับการปกป้องคุ้มครองเป็นอย่างดีจากคนรอบข้าง ไม่ต้องทุกข์กาย ทุกข์ใจ ชีวิตจะสุขสบายตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะหนทางโรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้ว นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมาก

7.การทำบุญด้วยน้ำมันนวด ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายน้ำมันนวด จะได้รับอานิสงส์ผลบุญทำให้เป็นผู้ที่พรั่งพร้อมไปด้วยบริวารที่คอยปรนนิบัติพัดวีอย่างใกล้ชิด หากจะทำสิ่งใดก็จะมีที่ปรึกษา ส่งเสริมทั้งกำลังกาย ใจ สติปัญญาและกำลังทรัพย์ ส่วนการเจ็บไข้โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยต่างๆ จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จะเป็นผู้ที่มีกำลังวังชาดี หากจะเป็นนักกีฬา ก็จะโด่งดังระดับโลก หรือหากจะรับราชการทหารหรือตำรวจก็น่าสนับสนุนส่งเสริม เพราะจะได้เป็นผู้บัญชาการอย่างรวดเร็ว

8.การทำบุญด้วยพัด ผู้ที่ทำบุญด้วยพัด จะได้รับผลบุญในเรื่องของสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ชีวิตจะมีเรื่องสบายใจ ลูกหลานก็เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่สร้างเรื่องทุกข์กาย ทุกข์ใจใดๆ ให้เลยแม้แต่น้อย เกียรติยศและชื่อเสียงจะโด่งดัง และมีแต่คนยอมรับนับถือจำนวนมาก ในโลกหน้าก็จะพบแต่ความสุขสำราญกายใจเช่นชาตินี้

9.การทำบุญด้วยรองเท้า ผู้ที่ทำบุญด้วยรองเท้า จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ของการเป็นผู้มีบริวารมาก จะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือและยกย่องเชิดชูเป็นอย่างดี 
ในเรื่องของโรคเกี่ยวกับเท้าก็หมดไป ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ และหากจะท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ก็ทำได้ง่าย ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยเพราะจะได้เป็นนักเดินทางที่มีชื่อเสียง ตลอดการเดินทางก็จะได้เรียนรู้ และศึกษาสิ่งต่างๆ เสมอ จะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงมากคนหนึ่ง

10.การทำบุญด้วยกุญแจ ผู้ที่ทำบุญด้วยกุญแจจะเป็นผู้ที่มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน คิดอะไรก็แตกฉาน ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้หากคิดจะทำ 
อีกทั้งชีวิตยังมีแต่ความปลอดภัย ภยันตรายก็ไม่กล้ามากล้ำกรายอย่างแน่นอน ส่วนในชาติหน้าก็จะเกิดเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั่วทั้งแผ่นดิน

11.การทำบุญด้วยการถวายที่ดิน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายที่ดินแด่พระสงฆ์ นับว่าเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ จะได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้ปกครองแผ่นดินหรือบริหารประเทศ 
ความที่เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่จึงมีคนพากันยกย่องสรรเสริญจำนวนมาก ในเรื่องของความมั่นคงทางกายและใจ ไม่มีปัญหาอะไรเลยเพราะเป็นผู้ที่หนักแน่น ทำการใดก็เจริญและได้รับการยอมรับอยู่ตลอด จะมีความสุขทั้งชีวิตเลยทีเดียว

12.การทำบุญด้วยการทำความสะอาดเจดีย์ ผู้ที่ทำบุญด้วยการทำความสะอาดเจดีย์ นับว่าได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เพราะจะทำให้ชีวิตมีแต่ความสงบราบรื่น คิดจะทำสิ่งใดก็ไร้อุปสรรค 
หากตายไปแล้วก็จะได้ไปจุติในแดนสวรรค์ มีผู้คนและบริวารห้อมล้อมและปรนนิบัติตลอด นับว่าจะได้รับอานิสงส์นี้ทุกชาติๆ ไปเลยทีเดียว 
จิตใจนั้นก็ค่อนข้างดีงาม พ้นจากกิเลส ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้เสมอ เพราะมีแต่ความเมตตานั่นเอง

13.การทำบุญด้วยการถวายไม้เท้าค้ำยัน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายไม้เท้าค้ำยันแด่พระสงฆ์ ผลบุญนี้จะทำให้ได้รับความสบายใจในการครองชีวิต ไม่ต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรค จะมีคนคอยปกป้องรักษาให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ จะมีลูกก็จะพึ่งพิงได้ ลูกจะดี ไม่นำเรื่องหนักใจมาให้ 
จะเป็นคนที่มีชีวิตที่มั่นคง เหมือนไม้เท้าคอยค้ำยันไว้ กล้าหาญในการทำกิจต่างๆ ทำให้คนรอบข้างที่คิดร้ายหวาดกลัวและพ่ายแพ้ไปในที่สุด 
โดยส่วนใหญ่แล้วผลบุญนี้จะส่งผลให้เป็นคนดวงแข็ง

14.การทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตศรัทธา ผู้ที่ทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตที่ศรัทธานั้นจะได้รับอานิสงส์ คือ อานิสงส์นี้จะไปเสริมดวงให้เป็นที่เคารพนับถือ 
ชีวิตครอบครัวก็จะสุขสบาย เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและน่าสรรเสริญ ปราศจากศัตรูที่คิดร้าย คนคิดร้ายก็จะสำนึกในความดีต่างๆ แล้วพ่ายแพ้ไป 
เส้นทางชีวิตมีแต่ความสุข สงบ พบเจอแต่เรื่องดีๆ ในชีวิต จะมีสติดี ทำให้ประสบความสำเร็จในเรื่องที่หวังได้ง่าย

15.การทำบุญด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายดอกไม้ ธูปเทียน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในส่วนของการมีสติปัญญาที่ฉลาดปราดเปรื่อง รู้จักแก้ไขปัญหาจัดการเรื่องต่างๆ กับชีวิตของตนได้เป็นอย่างดี หากคิดจะวางแผนก็เป็นนักวางแผนตัวสำคัญ ในเรื่องของรูปร่างหน้าตาก็สง่างาม เป็นหญิงอย่างกุลสตรี เป็นชายก็สมชายชาตรี ใครเห็นก็รักใคร่ชอบพอกันทุกคน 
ส่วนใหญ่แล้วอานิสงส์นี้จะผลักดันให้ผู้ที่ทำบุญพบกับความสำเร็จ ชื่อเสียงโด่งดัง จนเป็นที่ยอมรับของคนทุกเพศทุกวัย นับเป็นบุญกุศลที่สูงส่งยิ่ง

16.การทำบุญด้วยกรรไกรตัดเล็บ ผู้ที่ทำบุญด้วยกรรไกรตัดเล็บนั้น จะได้รับผลบุญส่งให้ชีวิตของคุณพบกับความบริสุทธิ์ ปราศจากความเศร้าหมองใดๆ อันตรายต่างๆ ที่จะเข้าใกล้ก็จะไม่กล้ำกราย ชีวิตจะมีแต่ความสุข อานิสงส์นี้ยังส่งผลถึงครอบครัวให้ได้รับความสุขมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังจะเป็นผลดีในส่วนของการได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากผู้ใหญ่ที่เขาเอ็นดูคุณเป็นอย่างดี ในยามที่ตกต่ำ ไม่นานจะกลับมามีชีวิตสดใสได้ทุกครั้ง นับว่าเป็นบุคคลที่โชคดีมากคนหนึ่ง

17.การทำบุญด้วยการถวายมีดโกน ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายมีดโกนแด่พระภิกษุสงฆ์ อานิสงส์ที่ได้รับจะส่งผลต่อการดำรงชีวิต เพราะจะเป็นผู้ที่มีสมาธิ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างละเอียดรอบคอบ 
จะเป็นผู้ที่ขยันขันแข็ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย ทำให้ประสบความสำเร็จในบั้นปลาย สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายๆ 
มีจิตใจที่ผ่องแผ้ว สุขทั้งกายและใจ อุปสรรคที่ต้องเผชิญก็มลายหาย

18.การทำบุญด้วยการถวายตะเกียง ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายตะเกียงแด่พระสงฆ์จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นผู้ที่มีชีวิตที่ราบรื่น เหมือนมีไฟส่องทางให้ ทำให้ไม่พบเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ยากจะผ่านไปได 
การเรียนหรือการทำงานก็จะเป็นเลิศ เพราะสติปัญญาดีมาก หัวไว และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี แม้ศึกษาธรรมก็จะรู้ได้อย่างแตกฉาน 
เป็นผู้ที่วางตัวดี คนรอบข้างเคารพและเชื่อถือในคำพูด ทำดีจะเห็นผลเร็ว มีชีวิตที่รุ่งโรจน์ไม่มีตก

19.ทำบุญด้วยการถวายตู้ใส่พระไตรปิฎก ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายตู้ใส่พระไตรปิฎก จะได้รับอานิสงส์ผลบุญอย่างมากมายในเรื่องของความพร้อมด้านรูปโฉม และความเจริญทางด้านสติปัญญา จะเป็นผู้ที่มีไหวพริบ ชาญฉลาด สามารถหาทางออกที่ดีให้กับชีวิตได้ตลอด ความงดงามทางรูปร่างหน้าตา ทำให้เป็นคนที่มีเสน่ห์ เป็นที่รักและชื่นชมของคนทั่วไป นอกจากนี้แล้วการทำบุญด้วยวิธีนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตของคุณไม่โดดเดี่ยว จะมีคนมาอยู่ใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือว่าญาติ ทั้งในยามทุกข์และสุข จะไม่มีวันตกต่ำอย่างแน่นอน 
นับว่าการทำบุญด้วยวิธีนี้ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งทีเดียว

20.การทำบุญด้วยการสร้างพระพุทธรูป ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างพระพุทธรูป ให้เป็นที่สักการบูชาจะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะไม่ว่าจะเกิดในชาติใดก็ตาม จะเป็นผู้ที่พร้อมด้วยทรัพย์ สติปัญญา และรูปโฉม ทำสิ่งใดก็ตามจะมีบริวาร ผู้คอยช่วยเหลือ และสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง ในด้านของจิตใจนั้น จะเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนเป็นอย่างดี หากเป็นผู้นำในเรื่องใดก็จะสำเร็จและพาลูกน้องพบกับความสุขได้เสมอ การวางแผนก็จะเป็นนักคิดที่แยบคาย รู้ทันเหตุการณ์ต่างๆ เป็นอย่างดี อานิสงส์นี้จะทำให้คุณใช้ชีวิตสุขสบายอย่างมาก

21.การทำบุญด้วยการสร้างกุฏิ ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างกุฏิถวายแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์กลับคืนมาในเรื่องของความเป็นอยู่ จะมีชีวิตที่สุขสบายไม่ลำบาก ครอบครัวก็จะรักใคร่ปรองดองกัน มีความมั่นคงในชีวิต ด้านร่างกาย ก็จะเป็นผู้ที่มีความรู้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเรียนทางด้านใดก็จะเรียนรู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง บุคคลที่คิดร้ายก็จะต้องแพ้ภัยตนเอง จะปลอดภัยจากสัตว์ร้ายและอาวุธต่างๆ มีอายุยืนยาว

22.การทำบุญด้วยการบูรณะพระพุทธรูป ผู้ที่ทำบุญด้วยการบูรณะพระพุทธรูปแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์อันแรงกล้า สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ร่างกายสมบูรณ์ครบอาการ 32 ผิวพรรณงามเปล่งปลั่ง ไม่แก่เร็ว ความเป็นอยู่ดี มั่งคั่ง ทำมาค้าขึ้น มักจะได้ลาภลอยอยู่บ่อยๆ ไปไหนก็มักจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็น ใครเห็นใครก็รัก พูดจาอะไรก็จะเป็นที่เชื่อถือ เป็นที่นับหน้าถือตา 
ชาติหน้าก็จะเป็นผู้ที่สวยทั้งรูปกายและรูปสมบัติ

23.การทำบุญด้วยการถวายภาชนะต่างๆ ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายภาชนะต่างๆ แด่พระภิกษุสงฆ์ บุคคลผู้นั้นจะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตพรั่งพร้อมไปด้วยบริวาร มีแต่คนอาสาที่จะช่วยเหลือ หากประสบปัญหาใดก็ตาม บริวารจะเป็นที่รับฟังและเป็นที่ปรึกษาที่ดีอย่างยิ่ง ในการติดต่อ เจรจา จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผู้ที่มีทักษะในการพูดเป็นเลิศ 
เรียนด้านใดก็มักจะได้ดีกว่าผู้อื่น หัวไว และมีพรสวรรค์ในทุกๆ ด้าน เมื่อมุ่งไปทางใดแล้วก็จะทำได้ดี ยามแก่เฒ่าก็จะมีคนดูแล ชีวิตไม่ขัดสน

24.การทำบุญด้วยการสร้างสะพาน ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างสะพาน จะได้รับอานิสงส์ในผลบุญนั้นอย่างสูงส่ง คือในยามยาก็มีผู้เข้ามาช่วยเหลือ จะมีแต่คนหยิบยื่นน้ำใจให้อยู่เสมอ เป็นที่รักของคนรอบข้าง 
การงานก็จะมีความมั่นคง ถึงเริ่มกระทำสิ่งใดไม่นาน ก็จะมีผู้ใหญ่เห็นความตั้งใจ และหยิบยื่นตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้นให้ ชีวิตครอบครัวก็เหมือนกับสะพาน ซึ่งแข็งแกร่ง มั่นคง อานิสงส์นี้ส่งผลให้เห็นทางสว่างทุกครั้งที่มืดมนเหมือนมีคนมาชี้ทางให้

25.การทำบุญด้วยการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ผู้ที่ทำบุญด้วยการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์อย่างแรงกล้า การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อานิสงส์ผลบุญดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญด้วยวิธีนี้มีอำนาจ บุญวาสนามีสูง ทำการงานก็สำเร็จเจริญก้าวหน้าอย่างไร้อุปสรรค ชีวิตของคุณจะมีชื่อเสียง มีผู้คนยอมรับนับถือ ทำอะไรก็ตามจะมีคนสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดี หากชีวิตมีเคราะห์ ก็จะผ่านพ้นและกลับมาพบกับความสำเร็จได้อีกครั้ง ชีวิตทั้งโลกนี้และโลกหน้าก็จะพบแต่ความสุขสดชื่นเสมอ

26.การทำบุญด้วยการถวายเชิงรองก้นบาตร ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายเชิงรองก้นบาตร จะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของการมีคนอุปถัมภ์เกื้อหนุน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่แห่งใดก็จะมีคนคอยแนะนำ ยามใดที่พลาดพลั้งก็ไม่มีวันที่อยู่โดดเดี่ยว เพื่อนและญาติมิตรจะอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น คนรอบข้างจะเป็นคนที่ไว้ใจได้ เขาจะมอบแต่ความจริงใจให้และจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณได้เป็นอย่างดี นอกจากอานิสงส์ของการอุปถัมภ์แล้ว จะส่งผลให้ผู้ทำบุญจิตใจสงบ จะทำสิ่งใดก็คิดออกและเกิดความผิดพลาดน้อย

27.การทำบุญด้วยการสร้างศาลาโรงฉัน ผู้ที่มีจิตศรัทธาทำบุญด้วยการสร้างศาลาโรงฉันถวายพระสงฆ์นั้น จะได้รับอานิสงส์ผลบุญทั้งชาตินี้และชาติหน้า คุณจะเป็นผู้พรั่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภค บริโภคครบครัน ครั้นเกิดในชาติภพหน้าก็จะเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ไม่มีวันที่จะตกต่ำ สุขภาพร่างกายจะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน จิตใจก็จะสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนกายและใจ เมื่อร่างกายและจิตใจพร้อมแล้ว อายุของคุณก็จะยืนยาว อยู่เป็นหัวหน้าครอบครัวจนประสบความสำเร็จสูงสุดได้อย่างง่ายดาย 
ชีวิตของผู้ที่ทำบุญด้วยวิธีนี้นั้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดก็ไม่มีอุปสรรคเลย ซึ่งนับเป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง

28.การทำบุญด้วยรัดประคด ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายรัดประคดแด่พระสงฆ์ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ในเรื่องของความมั่นคงทั้งทางจิตใจ ที่ไม่หลงในทางผิดและร่างกายที่พร้อมด้วยฐานะที่เจริญรุ่งเรือง 
จะเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ คำพูดมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนพร้อมที่จะยอมรับคำแนะนำต่างๆ นอกจากนี้จะมีความสมบูรณ์ในเรื่องของญาติมิตร และบริวารที่เป็นคนดี และอยู่กันด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ในเรื่องของสติปัญญา จะเป็นผู้ที่มีสมาธิดีมาก และไหวพริบปฏิภาณเหนือผู้อื่น อนาคตจะได้เป็นใหญ่เป็นโต มั่งคั่งด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี

29.การทำบุญด้วยการสนับสนุนศึกษาพระธรรม ผู้ที่ทำบุญด้วยการสนับสนุนศึกษาพระธรรม จะได้รับอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ส่งเสริมให้การศึกษาหาความรู้ไร้อุปสรรค ได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้างในทุกๆ ทาง และจะประสบความสำเร็จอย่างมากหากมีความตั้งใจจริง เป็นคนที่ทำความดีขึ้น และเห็นผลทันตา คนรอบข้างไม่กล้าคิดร้าย อานิสงส์นี้จะส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยเป็นโรคร้าย มีชีวิตยามแก่ที่สุขสบาย เพราะจะมีบุตรหลานบริวารที่รักใคร่รายล้อมและไม่เจอกับปัญหาให้ต้องวิตก

30.การทำบุญด้วยการปิดทององค์พระ ผู้ที่ทำบุญด้วยการปิดทององค์พระ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ผลบุญทางด้านทรัพย์ ถือได้ว่าจะมีความมั่งคั่ง รวยทรัพย์ หยิบจับอะไรก็ทำให้เป็นเงินเป็นทองได้อย่างง่ายดาย 
อานิสงส์นี้จะทำให้เป็นที่ยกย่องของบุคคลรอบข้าง เจ้านายก็รักใคร่ชื่นชอบ ทำอะไรจะดูดีไปทุกๆ ด้านเหมือนแสงทองอันรุ่งโรจน์ 
จะมีรูปงาม สวยสะดุดตา เป็นที่น่านับถือและรักใคร่ ดูมีสง่าราศี ในชาติหน้าก็จะเป็นใหญ่เป็นโต ไม่พบเจอผู้ที่คิดร้ายด้วย

31.การทำบุญด้วยการถวายบาตร ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายบาตรแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์อันแรงกล้า กล่าวคือความเป็นอยู่จะมั่งคั่ง มีชีวิตสมบูรณ์พูนสุข ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้โดยไม่ต้องลงแรงมาก 
ยามที่พบกับอุปสรรค ก็จะพบกับทางแก้ หรือมีที่พึ่งเข้ามาอยู่เสมอ อันตรายไม่มากล้ำกราย คิดทำสิ่งใดมีความหนักแน่น และมีความพยายามมากทำให้การนั้นๆ ส่งผลในทุกครา ไม่ค่อยพบกับความผิดหวังเท่าใด ตัดสินใจสิ่งใดจะมีแต่คนให้คำปรึกษาที่ดีอยู่เสมอ

32.ทำบุญด้วยการถวายผ้าปูลาด ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายผ้าปูลาดแด่พระสงฆ์ ผู้นั้นก็จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งลาภยศและชื่อเสียง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือฐานะใดก็จะเป็นที่นับหน้าถือตา มีบารมีเป็นที่ยำเกรงของบริวารและคนรอบข้าง มักเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ เพราะจะเป็นคนที่มีพื้นฐานความคิดอ่านดี และมีความรอบคอบ 
ผู้ที่ได้รับอานิสงส์นี้จะไม่ตกต่ำ แม้เกิดมาอย่างไม่มีทรัพย์สมบัติ ก็จะสร้างขึ้นได้เองไม่ยากนัก

33.การทำบุญด้วยเข็มเย็บผ้า ผู้ที่ทำบุญด้วยเข็มเย็บผ้า จะได้รับอานิสงส์ผลบุญส่งให้คุณเป็นผู้ที่มีปัญญาเฉียบแหลม คิดจะทำการใดก็สัมฤทธิ์ผลเป็นอย่างดี 
แม้ในยามเกิดอุปสรรคก็จะมีผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ประกอบกับปัญญาที่เหนือผู้อื่น จึงสามารถผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ใครก็ตามที่คิดจะทำร้ายจะได้รับผลกรรมอันเจ็บปวด แต่ด้วยความที่เป็นคนมีจิตใจดี จึงมักจะรู้จักให้อภัย และได้มิตรเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

34.การทำบุญด้วยสายโยก ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายสายโยกแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในเรื่องของการเป็นผู้มีสติตั้งมั่นไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำสิ่งใดก็ตามจะไม่ประมาท แล้วจะรู้จักพิจารณาไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน จึงเป็นไปได้ยากที่จะเกิดการผิดพลาด นอกจากนี้ยังได้รับการรักใคร่เอ็นดูจากญาติมิตรทั้งหลายอย่างจริงใจ และสามารถพึ่งพาอาศัยกันได้เป็นอย่างดี

35.การทำบุญด้วยน้ำยาดับกลิ่นปาก การทำบุญด้วยน้ำยาดับกลิ่นปาก จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในส่วนของการมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง ไม่มีทางที่จะมีปัญหาในช่องปาก นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ในเรื่องของการใช้คำพูด จะมีวาจาที่ไพเราะน่าฟังอย่างยิ่ง พูดจามักจะน่าเชื่อถือ และหากจะเอาดีในเรื่องของอาชีพที่เกี่ยวกับการพูดก็จะยิ่งดีมาก เช่น นักการทูต หรือการค้าขายต่างๆ จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ชื่อเสียงต่างๆ ก็จะเป็นที่รู้จักโด่งดัง มีแต่คนรัก และอยากรู้จักเป็นมิตรด้วยทั้งสิ้น การทำบุญด้วยสิ่งนี้จะเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิตโดยตรง

36.การทำบุญด้วยกระดาษทราย อานิสงส์ของการทำบุญด้วยกระดาษทรายนั้น จะน้อมนำให้ชีวิตของผู้ทำบุญยั่งยืน อยู่เป็นมิ่งขวัญของลูกหลานและวงศ์ตระกูลไปนานแสนนาน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็ไม่มาเบียดเบียน สุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ หากใครคิดจะทำร้ายก็จะแพ้ภัยไปเอง เพราะคุณจะเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสตัณหาทั้งปวง และมักจะเป็นผู้คิดดีทำดีอยู่เสมอ

37.การทำบุญด้วยการสร้างพระไตรปิฎก ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างพระไตรปิฎกแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญทั้งในชาตินี้และชาติหน้า จะเป็นผู้มีสติปัญญาดี เป็นผู้นำให้กับบุคคลอื่นอยู่เสมอ คิดอ่านสิ่งใดก็ไม่ค่อยผิดพลาด ความจำดี ด้านการงาน ก็จะเป็นที่นับหน้าถือตา เป็นเจ้าคนนายคน ถึงพร้อมด้วยบริวารรายล้อมรอบกาย ถึงแม้จะเป็นหญิงก็จะได้เป็นใหญ่ ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายพระไตรปิฎกนี้ มักเป็นนักวิชาการหรือเกี่ยวข้องกับงานใหญ่ หากเจออุปสรรค ก็จะเห็นทางออกอยู่เบื้องหน้า ไม่ต้องนั่งกลุ้มหรือไปปรึกษาใคร

38.การทำบุญด้วยการถวายผ้าคลุมองค์พระ ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายผ้าคลุมองค์พระแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ในด้านความเป็นอยู่ จะพรั่งพร้อมไปด้วยอาภรณ์เครื่องประดับ มีเครื่องใช้ไม้สอยสะดวกสบาย
สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณงามสะดุดตา เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ที่พบเห็น จะเป็นที่รักใคร่ของเจ้านาย ผู้บังคับบัญชา บุตรหลานบริวารจะเกรงใจ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม อานิสงส์ผลบุญนี้จะส่งผลให้มีชีวิตที่สุขสบาย

39.การทำบุญด้วยการถวายเสา ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายเสาแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่ยิ่งใหญ่ กล่าวคือในด้านความเป็นอยู่ก็จะสุขสบายถึงขนาดเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ มีเงินทองมากมายไม่ขาดมือ อาชีพการงานก็มั่นคง ไม่ว่าจะหยิบจับหรือคิดเริ่มการใดก็ไม่ค่อยพบกับอุปสรรค เพราะมีรากฐานที่มั่นคง สุขภาพร่างกาย ถึงจะเจ็บไข้ก็จะหายพลัน และจะเจ็บป่วยได้ยากกว่าผู้อื่น ด้านความคิดอ่าน ก็จะเป็นคนมีสติ ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรก็จะทำได้อย่างรอบคอบ มีความหนักแน่นและมั่นคง

40.การทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรค ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรคแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของสุขภาพอย่างมาก จะเป็นผู้ที่ไม่ต้องประสบกับโรคร้าย เจ็บไข้เล็กน้อยก็จะไม่กล้ำกราย จะมีอายุยืน 
การเดินทางจะไร้อุปสรรค หากพบพานความติดขัดก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะจะมีที่พึ่งเข้ามาอยู่เสมอ อันตรายมักจะหนีหาย สำหรับผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรค ทำสิ่งใดก็จะได้รับความเมตตาจากคนรอบข้าง หากไปไหว้วานขอความช่วยเหลือจากใคร เขาก็จะเต็มใจช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง


ขอบคุณข้อมูลโดย the-than.com
No Comment

เคล็ดลับ 14 วิธีทำบุญอย่างไรให้รวย

เคล็ดลับ 14 วิธีทำบุญอย่างไรให้รวย
การแก้กรรมทำได้หรือไม่ จริง ๆ แล้วการแก้กรรมไม่สามารถทำได้ แต่เราทำบุญหนีจากบาปครับ เหมือนบาปกำลังปั่นจักรยานมาหาคุณ แต่คุณไปหามอเตอร์ไซต์มาขี่แทน

หรือถ้าเป็นบุญใหญ่ก็เหมือนเราได้ขับรถยนต์ไปแทน แต่อย่าประมาทนะครับ รถยนต์น้ำมันหมดเมื่อไหร่ จักรยานก็มีโอกาสตามทันนะครับ

เอาล่ะครับ นี่เป็น 14 วิธีทำบุญให้รวยครับ

1. ถือศีล 5 การถือศีล 5 เป็นประจำนี้ จะช่วยเสริมดวงชะตาและจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีงามครับ การทำดี และไม่เบียดเบียนใครถือเป็นการทำบุญกุศลที่ได้อานิสงส์ เป็นผลให้เกิดความโชคดี และแก้เคราะห์ลดกรรมได้ และการถือศีล 5 มิได้ขาดเป็นใบเบิกทางไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้าด้วยครับ เห็นมั้ยล่ะครับแค่คิดจะแค่ถือ 5 ก็มีเรื่องดี ๆ มารอเราอยู่แล้ว

2. การถือศีล 8 จะช่วยเสริมดวง และแก้เคราะห์ได้เช่นเดียวกับการถือศีล 5 แต่การถือศีล 8 นั้นปฏิบัติได้ยากยิ่ง ถ้ากำลังใจไม่ถึงจริง ๆ จะทำได้ไม่กี่วันก็เลือกครับ แต่เมื่อปฏิบัติได้สำเร็จจะได้กุศลแรงนัก กรรมไม่ไดีจะชลอตัว ปฏิบัติแล้วยังช่วยเสริมดวงอำนาจบารมีได้อีกด้วย ส่วนใหญ่คนที่ถือศีล 8 เป็นประจำเมื่อมีโอกาส จะทำอะไรก็ทำมาค้าขึ้นมากกว่าปกติครับ

3. กินเจ ก็เพื่อลดละชีวิตสัตว์ ซึ่งได้อานิสงส์ผลบุญสูง และเราควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ถ้าอธิษฐานไว้ว่า 7 วัน ก็ทำให้ครบ 7 วัน วันเกินได้แต่อย่าให้ขาด อาจตั้งจิตว่าจะทำทุกวันพระ หรือปฏิบัติในทุกวันเกิดของตัวเองในแต่ละเดือน เป็นต้น

4. ไหว้พระและถวายดอกไม้ ธูปเทียน รวมทั้งการปิดทองคำ เปลวและเครื่องหอม ผลบุญนี้จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง มีความเจริญก้าวหน้า อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ได้ผลบุญเห็น ๆ กันอยู่แล้วครับ ถ้าทำเป็นประจำด้วยจิตปรารถนาที่จะทำจริง เมื่อสิ้นอายุขัยจากมนุษย์ไป มีสิทธิ์ได้เป็นเทวดา นางฟ้า แน่นอนครับ

5. ถวายน้ำมันตะเกียง เพื่อความรุ่งโรจน์โชติช่วงของ ชีวิต เช่นเดียวกับความสว่างของแสงตะเกียง ทำให้พ้นจากความมืดมิดทั้งการดำเนินชีวิต รวมทั้งปัญหา และความคิดที่สว่างไสวไม่อับจนหนทาง อันนี้มีอานิสงค์ทันตาเห็นเลยครับ ถ้าเราได้ไปเติมน้ำมันในตะเกียงที่น้ำมันหมดแล้ว หรือเหลือน้อยแล้ว อาจจะลองไปตามวัดต่าง ๆ ได้ ถ้าผมเห็นน้ำมันตะเกียงอันไหนใกล้จะหมดแล้ว ผมจะเติมน้ำมันในตะเกียงนั้นเยอะเป็นพิเศษ เพื่อที่คนข้างหลังจะได้นำธูปเทียนมาจุดต่อได้อีกมากมายหลายคน

6. ถวายสังฆทาน เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยถวายสิ่งของจำเป็นแด่พระสงฆ์ อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตหมดเคราะห์หมดโศก จะทำสิ่งใดก็ราบรื่นไม่ติดขัด พบแต่ความสำเร็จสมปรารถนา รวมทั้งมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ไม่ขัดสน ถ้ามีโอกาสขอให้ทำทุกเดือนนะครับ การถวายสังฆทานนี่บุญหนุนส่งมากครับ

7. ไหว้พระ ไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จะทำให้พบ กับความสุขความเจริญ เกิดความสุขใจว่ามีที่พึ่งพิง ยึดเหนี่ยว นำมาซึ่งกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป และรู้สึกเสมอว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มองเห็นเรานะครับ ท่านจะคอยช่วยเหลือในเราที่เราดวงไม่ค่อยดี หรือหางออกไม่ได้ ท่านจะมาช่วยเหลือเราเสมอครับ แต่ท่านก็สามารถช่วยได้ไม่เกินบุญบารมีของเราครับ

8. ทำบุญปล่อยสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ถือว่าได้บุญแรง จะต้องทำด้วยความตั้งใจจริง เช่น การไปซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าไปปล่อย หรือไถ่ชีวิตวัวควายถวายวัด จะได้บุญแรงขึ้นไปอีกถ้าได้ไถ่ชีวิตวัวควายที่กำลังตั้งท้องอยู่ ถือว่าได้ช่วยถึง 2 ชีวิตในคราวเดียวกัน เพื่อมอบให้ชาวนานำไปใช้ประโยชน์ต่อไป หรือซื้อปลาในตลาดที่จะถูกฆ่าไปปล่อย น้ำ ยามมีเคราะห์ภัยก็จะแคล้วคลาด เพราะแรงบุญที่ได้ทำให้เค้าแคล้วคลาด ผลบุญนี้ยังผลให้หมดทุกข์ หมดภัย และพบความสุขความเจริญในชีวิตครับ ลองทำดูครับ

9. ทำบุญให้ทาน เป็นการรู้จักเสียสละทรัพย์ของตนเอง และแบ่งปันให้ผู้อื่น ซึ่งผลบุญจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีจิตใจยินดีในการทำบุญให้ทานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงพุทธศาสนา หรือให้ทานแด่ผู้ยากไร้ เป็น การทำบุญที่มาจากจิตใจอันไม่ยึดติดมีความไม่โลภ ผลบุญจึงหนุนนำให้มีแต่ความราบรื่น ยามมีเรื่องติดขัดก็จะมีผู้มาช่วยเหลือค้ำจุน ล้วนแล้วแต่เป็นบุญส่งเสริมให้ชีวิตมีโชค มีทรัพย์ และมากด้วยบารมี

10. ทำบุญโลงศพ ซื้อโลงศพบริจาคให้แด่ศพอนาถาไร้ญาติ จะได้อานิสงส์แรงยิ่งนัก การทำบุญเช่นนี้จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง สามารถต้านเคราะห์ภัยหนักต่าง ๆ และผ่อนหนักเป็นเบาได้

11. พิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน จัดพิมพ์เอง หรือร่วมบริจาคสมทบทุนการพิมพ์กับผู้อื่นก็ได้ เป็นการเสริมดวงให้มีวาสนาบารมี เพื่อให้ปัญญาสว่าง หมดทุกข์ หมดโศก ไม่มีเคราะห์ร้ายมากล้ำกราย

12. บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น หมดทุกข์ หมดโศก ประสบแต่ความโชคดี ถ้าในเรื่องการทำธุรกิจก็อาจจะทำให้เราได้เห็นช่องทางการแสวงหาน่าน้ำใหม่ ๆ ทำให้คิดอะไรได้ปลอดโปร่งยิ่งขึ้น

13. ซื้อข้าวสารถวายวัด หรือเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์เป็นการสั่งสมบุญกุศล เพื่อให้ชีวิตมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ และเพียบพร้อมด้วยบารมี

14. การตักบาตรร่วมขันกับผู้อื่นหรือทำบุญร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะทำบุญด้วยการบริจาคทรัพย์ หรือโดยทางอื่น จะส่งผลให้เนื้อคู่ดูดี ดวงชะตาแข็งแกร่ง เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และจะได้แต่เพื่อนที่ดีในชาตินี้

ซึ่งการทำบุญนี้ก็จะส่งผลแต่ในเรื่องที่ดี ทำให้เวลาที่เราทำดีแล้วเรามีความสุขที่ได้ทำ แต่ก็ต้องดูเงินในกระเป๋าก่อนที่เราจะทำบุญด้วยนะครับ ทำแล้วต้องไม่ทำให้ตัวเราเองเดือดร้อน และขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ทำบุญด้วยนะครับ


ขอบคุณข้อมูล : millionaire-academy
1 Comment

ทำบุญแล้วได้อะไร?

   ความหมายของคำว่า บุญ ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของ "บุญ" โดยคิดว่า กาทำบุญก็คือ การตักบาตร การถวายทรัพย์ ถวายปัจจัย ถวายสังฆทาน เป็นต้น ให้กับพระสงฆ์หรือให้กับวัดเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว คำว่า "บุญ" มาจากภาษาบาลีว่า “ปุญญ” ซึ่งแปลว่า "เครื่องชำระสันดาน" (พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)) หมายถึง การชำระกาย วาจา และใจ ให้หมดจดจากมลทิน หรือเครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ

ภาพประกอบ การทำบุญของศาสนาพุทธ

      ตามพระไตรปิฎกแล้ว เรายังสามารถทำ "บุญ" ได้อีกหลายหนทาง มากกว่าที่เราคุ้นชินกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรื่องที่จัดเป็นการทำบุญในทางพระพุทธศาสนาเราเรียกกันว่า "บุญกิริยาวัตถุ" แบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ หมวด 3 ซึ่งเป็นหมวดใหญ่ กับหมวด 10 ซึ่งแยก  รายละเอียดปลีกย่อย ดังนี้
หมวด 3 มี 3 ข้อ คือ
1. "ทานมัย" เป็นการทำบุญด้วยการให้ อันนี้เราคุ้นเคยกันดี เช่น การตักบาตร การถวายสังฆทาน การถวายเงินสร้างวัด เหล่านี้คือ การให้สิ่งที่เรามี นอกจากจะได้บุญแล้วยังสอนให้เรารู้จักการเสียสละไปด้วยในตัว แต่มีการให้บางประการ ที่ไม่นับเป็นการทำบุญ เช่น การให้สุรา การให้สิ่งเพื่อกามคุณ เป็นต้น
2. "สีลมัย" เป็นการทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี ถือเป็นการทำบุญที่ไม่ต้องมีต้นทุนใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงมีใจที่ตั้งมั่นและลงมือทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น หรือจะรักษาศีล 5, ศีล 8 เพียงเท่านี้ก็ได้ทำบุญแล้ว และที่สำคัญอานิสงส์ของการทำบุญด้วยการรักษาศีล ยังมากกว่าอานิสงส์ของการทำบุญด้วยการให้มากมายนัก
3. "ภาวนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการเจริญภาวนา เช่น การนั่งสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน หรือการเจริญวิปัสสนา นี่ก็เป็นการทำบุญที่ไม่มีต้นทุนอีกเช่นกัน และยังเป็นการทำบุญขั้นที่สูงขึ้นจาก "สีลมัย" มีอานิสงส์ของการทำบุญที่มากกว่าการทำบุญแบบ "สีลมัย" ด้วย
หมวด 10 มี 10 ข้อ คือ
1. "ทานมัย"
2. "สีลมัย"
3. "ภาวนามัย" (ตามที่อธิบายไปแล้วข้างต้น)
4. “อปจายนมัย” เป็นการทำบุญด้วย การประพฤติอ่อนน้อม เป็นผู้นอบน้อม ต่อผู้ที่ควรนอบน้อม เช่น เด็กที่เคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ ก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
5. "เวยยาวัจจมัย" เป็นการทำบุญด้วยการขวนขวายในกิจการหรืองานที่ควรกระทำ พูดง่ายๆ ก็คือ เพียงแค่เราขวนขวายตั้งใจทำงานของเรา ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งแล้ว
6. "ปัตติทานมัย" เป็นการทำบุญด้วยการแบ่งส่วนบุญ ที่เราได้ทำแล้วให้กับผู้อื่น เช่น เมื่อเราทำบุญตักบาตรแล้ว เราตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้อื่น หรือเมื่อเราถวายสังฆทานแล้ว กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร นั่นก็คือการทำบุญอย่างหนึ่ง และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเป็นบุญซ้อนกัน คือการตักบาตรหรือถวายสังฆทานเสร็จแล้ว เราก็ได้ทำบุญด้วยการให้ เรียกว่า "ทานมัย" จากนั้นเมื่อเราแบ่งส่วนบุญนั้นให้กับผู้อื่น เราก็ได้ทำบุญอีกครั้ง เรียกว่า       "ปัตติทานมัย"
7. "ปัตตานุโมทนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการยินดีในบุญ ที่ผู้อื่นได้ทำแล้ว ถือเป็นการทำบุญที่ง่ายมากที่สุด เช่น เพื่อนไปทำบุญตักบาตรมา แล้วเราปลื้มใจที่เห็นเพื่อนทำบุญ เราอนุโมทนาบุญนั้นด้วยการยกมือพนมพูดว่า "สาธุ" เพียงแค่นี้เราก็ได้ทำบุญอย่างหนึ่งแล้ว
8. "ธัมมัสสวนมัย" เป็นการทำบุญด้วยการฟังธรรม ไม่ว่าจะฟังธรรมโดยตรงจากพระสงฆ์ ฟังหรืออ่านจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือ อินเตอร์เน็ต ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
9. "ธัมมเทสนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการแสดงธรรม ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นพระสงฆ์ แต่เป็นประชาชนธรรมดาเราก็สามารถทำบุญด้วยวิธีนี้ได้ เช่น เราอ่านหนังสือธรรมะแล้วรู้ว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนเลว เมื่อเห็นคนทำสิ่งเลว เรานำธรรมะที่ได้อ่านนั้นไปอธิบายให้เขารู้ นั่นก็ถือว่าเราได้ทำบุญอย่างหนึ่ง
10. “ทิฏฐุชุกัมม์” เป็นการทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรงกับความเป็นจริง ให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หรือ "สัมมาทิฐิ" ในอริยมรรคมีองค์ 8 นั่นเอง
      จะเห็นได้ว่าการทำบุญทั้ง 10 วิธี ที่กล่าวมานั้น มีเพียงวิธีแรก คือ "ทานมัย" เท่านั้น ที่ต้องมีต้นทุนหรือมีค่าใช้จ่าย ส่วนวิธีอื่นๆ ที่เหลือ  ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลยสักบาท ก็สามารถทำได้ และที่สำคัญอานิสงส์ ของการทำบุญด้วยวิธี "ทานมัย" ยังน้อยที่สุดในบรรดา "บุญกิริยาวัตถุ หมวด 3" ด้วย อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธเราทุกวันนี้ กลับติดกับดัก ของการทำบุญ อยู่เพียงแค่วิธีแรก ถ้านึกจะทำบุญ ก็นึกกันได้แต่เพียง การตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายปัจจัยให้พระ ถวายเงินให้วัด เป็นต้น โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า การตั้งใจถือศีล 5 ให้ครบ สมบูรณ์เพียงหนึ่งวัน หรือตั้งใจนั่งสมาธิ ด้วยจิตสงบเพียงหนึ่งชั่วโมง นั้นมีอานิสงส์ของบุญ ที่มากกว่าเป็นไหนๆ แต่จะโทษพุทธศาสนิกชน ไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะวัดหรือพระสงฆ์ บางส่วนที่โลภ อยากได้ทรัพย์ ก็พยายามมุ่งเน้นให้คนทำบุญด้วย "ทานมัย" ดังเช่น คำพูดที่ว่า "ยิ่งบริจาคมาก ยิ่งขึ้นสวรรค์ชั้นสูง" โดยละเลย ที่จะอบรมสั่งสอนใ ห้พุทธศาสนิกชน รู้ว่ายังมีวิธีการทำบุญวิธีอื่น ที่ดีกว่าอยู่ ดังนั้นเมื่ออ่านมาจนจบแล้ว เชื่อว่าพุทธศาสนิกชน ที่ดีทุกท่าน คงจะหลุดจากกับดัก และรู้กันแล้วว่า การทำบุญแบบไหนที่เหมาะสมกับเรา หรือเราสามารถทำได้มากที่สุด

ที่มาข้อมูล : www.thumboon.com
http://th.wikipedia.org
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)